AI & Future Food Workshop at Future Food Leader Summit 2025
4 กลยุทธ์ขับเคลื่อน อาหารอนาคต ก้าวสู่ยุค AI จาก AI & Future Food Workshop
เพื่อการพัฒนาระบบอาหารแห่งอนาคตโดยใช้กรอบวิเคราะห์ Impact vs. Feasibility Strategic Planning Model (จาก Future Food Leader Summit 2025 - 11 กุมภาพันธ์ 2568)
1. ประเด็นสำคัญจากเวิร์คช็อป
การเวิร์คช็อปเน้นการผสาน เทคโนโลยีขั้นสูง (DeepTech) และ ระบบอาหารเชิงฟื้นฟู (Regenerative Food Systems) เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต โดยมีหัวข้อหลักดังนี้
1. AI และ Precision Fermentation กับอุตสาหกรรมอาหาร
AI กับ Personalized Nutrition
วิเคราะห์ข้อมูลพันธุกรรม ไมโครไบโอม และพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อสร้าง โภชนาการเฉพาะบุคคล (Precision Nutrition)
นำ AI มาใช้ใน การบริหารห่วงโซ่อุปทาน (Food Supply Chain Optimization) เพื่อลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายสินค้า
ตัวอย่าง Precision Fermentation กับการพัฒนาโปรตีนทางเลือกและด้านเกษตร
ผลิต นมจากจุลินทรีย์ (Precision Fermented Dairy), และโปรตีนชนิดอื่น
ผลิตจุลินทรีย์ที่ส่งเสริมฟื้นฟูคุณภาพดิน
ผลิตจุลินทรีย์ส่งเสริมมาตราฐานความปลอดภัยผลิตภัณฑ์เกษตรอาหาร
พัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) สำหรับโรงงานหมักเชิงพาณิชย์
2. การบูรณาการเทคโนโลยีอาหารและ Regenerative Agriculture
Precision Fermentation เสริม Regenerative Food Systems อย่างไร
ใช้วัตถุดิบจาก เกษตรเชิงฟื้นฟู (Regenerative Crops) และของเสียทางการเกษตรเป็นแหล่งพลังงานให้จุลินทรีย์
สร้างความยืดหยุ่นในระบบอาหาร (Resilience)
ลดการใช้ที่ดิน น้ำ และลดก๊าซเรือนกระจกจากปศุสัตว์
Good Governance และ Responsible Sourcing
สร้างมาตรฐาน Regenerative Food Certification เพื่อเพิ่มความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน
กำหนด Green Procurement Policy ให้บริษัทเลือกใช้วัตถุดิบจากเกษตรเชิงฟื้นฟู
3. การสร้างความเข้าใจในระดับรัฐบาล องค์กร และผู้บริโภค
ระดับรัฐบาลและองค์กรธุรกิจ
จัดตั้ง Regulatory Sandbox เพื่อสนับสนุนนวัตกรรม เช่น Precision Fermentation และ AI-Based Food Tech
จัดตั้ง Future Food Investment Fund เพื่อดึงดูดการลงทุนด้าน Regenerative Food & DeepTech
ระดับผู้บริโภคและภาคการศึกษา
ผลักดัน Responsible Consumption ผ่านแคมเปญข้อมูลด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
บรรจุเนื้อหา Future Food & Biotechnology ในหลักสูตรการศึกษา
2. ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ (Impact vs. Feasibility Strategic Planning Model)
กรอบวิเคราะห์นี้ช่วยประเมินว่า สิ่งใดมีผลกระทบสูง (Impact) และสามารถดำเนินการได้ง่ายหรือยาก (Feasibility) เพื่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
1. แนวทางที่มี Impact สูง และ Feasibility สูง (Quick Wins – ควรดำเนินการทันที)
Regenerative Food Certification
พัฒนาระบบรับรองอาหารจาก Regenerative Agriculture และ Precision Fermentation
ใช้ AI & Blockchain ติดตามห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มความโปร่งใส
Responsible Consumption & Good Governance
กระตุ้นบริษัทขนาดใหญ่ให้ใช้ Responsible Sourcing เพื่อเพิ่มอุปสงค์ของวัตถุดิบเชิงฟื้นฟู
พัฒนา AI-Driven Consumer Education Platforms/ Precision Nutrition Product Coaching ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารแห่งอนาคตฟื้นฟูสุขภาพ
(Regenerative Food & Preventive Care)
โครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Precision Fermentation
สนับสนุน ศูนย์วิจัยและโรงงานต้นแบบ (Pilot Facilities) สำหรับเทคโนโลยีหมักระดับอุตสาหกรรม
กระตุ้นการลงทุนผ่านมาตรการจูงใจทางภาษี
2. แนวทางที่มี Impact สูง แต่ Feasibility ต่ำ (Transformational Projects – ต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้น)
Regulatory Sandbox สำหรับ Future Food Innovation
พัฒนานโยบายรองรับการทดลองเชิงพาณิชย์สำหรับ Cell-based Meat, AI-Optimized Nutrition
AI & Big Data เพื่อสร้าง Sustainable Food Ecosystem
ใช้ AI วิเคราะห์ Carbon Footprint ในอุตสาหกรรมอาหาร
สนับสนุน AI-Powered Personalized Nutrition เพื่อช่วยลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
3. แนวทางที่มี Impact ต่ำ แต่ Feasibility สูง (Incremental Improvements – ควรดำเนินการต่อเนื่อง)
ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยของ Precision Fermented Foods
เพิ่มการวิจัยด้านความปลอดภัยของอาหารหมักชีวภาพ
เงินอุดหนุนและ Soft Loans สำหรับ Regenerative Farming
สนับสนุนเงินทุนให้เกษตรกรที่เปลี่ยนไปใช้ระบบ เกษตรเชิงฟื้นฟู
4. แนวทางที่มี Impact ต่ำ และ Feasibility ต่ำ (Long-term Considerations – ควรพิจารณาในอนาคต)
Future Food Smart Cities
พัฒนาเมืองต้นแบบที่ใช้ AI, Food Tech, และ Circular Economy เป็นโครงสร้างพื้นฐาน Bio foundries สำหรับ Food Biotechnology
3. ข้อสรุปและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้กำหนดนโยบายและนักลงทุน
สำหรับภาครัฐ
เร่งกำหนดมาตรฐาน Regenerative Food & Precision Fermentation เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
จัดตั้ง Future Food Investment Fund เพื่อส่งเสริมการลงทุนใน Agri-FoodTech
นำการจับมือระหว่างรัฐเอกชนเป็น platform ความร่วมมือผสานภาคีอุตสาหกรรมสำคัญที่เกี่ยวข้อง
ส่งเสริม สนับสนุนแพลตฟอร์มการร่วมมือทำงานข้ามอุตสาหกรรมเช่น AI, เกษตร, อาหาร, การแพทย์, เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารของประเทศในระดับสากล
สำหรับนักลงทุนและภาคเอกชน
ขยายการลงทุนใน โรงงานหมัก & AI-Driven Food Innovation
ร่วมมือกับสตาร์ทอัพ AI & DeepTech Food เพื่อพัฒนาโซลูชันใหม่
ร่วมมือ AI ,Genomic, Wellness Industry
สำหรับภาคการศึกษา
ส่งเสริมหลักสูตร AI & Biotechnology สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร
พัฒนาระบบนิเวศแห่งนวัตกรรม (Food Tech Ecosystem) สำหรับนักวิจัยและสตาร์ทอัพ
สรุป
ระบบอาหารแห่งอนาคตต้องเป็นมากกว่าความยั่งยืน แต่ต้องเป็น "ระบบที่ฟื้นฟู" ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และเศรษฐกิจ การผสานพลังระหว่าง AI, Precision Nutrition, Precision Fermentation และ Regenerative Agriculture จะเป็นกุญแจสำคัญของ Future Food
รายชื่อผู้เข้าร่วมเวิร์คช็อป
นักพัฒนาเทคโนโลยีด้าน AI
คุณ ศิวดล มาตยากูร Co-Founder บริษัท แคริว่า (ประเทศไทย) จำกัด
ดร.ครรชิต รองไชย ผู้ก่อตั้ง AI and Sustainability Laboratory
ดร.ทวีวัฒน์ เหลืองวิริยะ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมข้อมูล (DSI) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นักพัฒนำเทคโนโลยีด้าน Symbiotic Growth (นักวิจัย)
คุณชนะพล ตัณฑโกศล CEO MUU
คุณพชรณัชช์ เอกวุฒิ ผู้จัดการศูนย์พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
คุณอิทธิพล ศรีอิทยาจิต กรรมการบริษัท บริษัท วิโนน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
สนับสนุนระบบนิเวศ AI & Food Tech
(นักลงทุน, ผู้กำหนดนโยบาย, ผู้เชี่ยวชาญซัพพลายเชน, นักกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน
ศ.ดร.ณัฐสิทธิ์ เกิดศรี Founder and Head TIME Labs
คุณพีระพณ ตัณฑ์พูนเกียรติ Central Food Wholesale (Go wholesale) Head of Risk Management and Sustainability
คุณกนกพล มหันต์ Central Tham Sustainable Development Specialist
คุณสินี ชัยธนะกุลมงคล Central Food Retail (TOPS) Sustainability Specialist
ผู้ดำเนินการเวิร์คช็อป คุณสันติ อาภากาศ, TASTEBUD LAB, BIO BUDDY, FUTURE FOOD NETWORK